หอยนางรม เป็นอาหารทะเลที่นิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลาย เป็นอาหารที่จัด ได้ว่ามีคุณค่าทางโภชนาการสูง ส่วนเปลือกหอยยังใช้ทำปูนขาว ซึ่งใช้ประโยชน์ใน การก่อสร้าง การเกษตรกรรม อุตสาหกรรมหลายประเภท เนื้อหอยนางรมนอกจาก จะใช้รับประทานสด และปรุงอาหารได้หลายอย่างไว้ ยังแปรรูปเป็นอาหารสำเร็จรูปได้อีก เช่นหอยนางรมดอง หอยรมควัน และสกัดเป็นน้ำมันหอย หอยนางรมพบอยู่ทั่วไปตามบริเวณน้ำตื้นชายเกาะ ชายฝั่งทะเล แหล่งน้ำที่มี อาณาเขตติดต่อกับทะเล หอยนางรมมีหลายชนิดที่พบในประเทศไทย ได้แก่ หอยนางรมปากจีบขนาดเล็ก และหอยนางรมพันธุ์โตที่มีชื่อว่า "หอยตะโกรม" พบมากในจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี สุราษฏร์ธานี ตราด
สำหรับ “หอยนางรม” สถาบันหัวใจและปอด แห่งชาติของแคนาดา ระบุว่า เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร เป็นแหล่งของวิตามินเอ บีหนึ่ง บีสอง บีสาม ซี และดี การบริโภคหอยนางรมตัวที่มีขนาดกลาง 4-5 ตัว ช่วยให้ร่างกายได้รับแร่ธาตุประเภทเหล็ก ทองแดง ไอโอดีน แมกนีเซียม แคลเซียม สังกะสี แมงกานีส และฟอสฟอรัสสถาบันหัวใจและปอดแห่งชาติของแคนาดา ระบุว่า หอยนางรมอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร คือเป็นแหล่งของวิตามินเอ บีหนึ่ง (ไทอามิน) บีสอง (ไรโบฟลาวิน) บีสาม (ไนอาซิน) ซี (กรมแอสคอร์บิค) และดี (แคลซิฟีรอล) การบริโภคหอยนางรมตัวที่มีขนาดกลาง 4-5 ตัว ช่วยให้ร่างกายได้รับแร่ธาตุประเภท แร่เหล็ก ทองแดง ไอโอดีน แมกนีเซียม แคลเซียม สังกะสี แมงกานีสและฟอสฟอรัส อย่างไรก็ตาม อาหารดิบ อาจมีแบคทีเรียผู้ที่ป่วยด้วยโรคตับ มะเร็งโรคระบบภูมิคุ้มกัน ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานหอยนางรมสด
ประโยชน์ของหอยนางรม
1.) เพิ่มความรู้สึกทางเพศในผู้ชายมากขึ้น
2.) ช่วยรักษาและป้องกันการเป็นหมันในผู้ชาย
3.) ป้องกันโรคต่อมลูกหมากโต ต่อมลูกหมากอักเสบ
4.) ควบคุมความดันโลหิต
5.) ควบคุมการแลกเปลี่ยนของออกซิเจนในเซลล์
6.) ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ต่างๆ
2.) ช่วยรักษาและป้องกันการเป็นหมันในผู้ชาย
3.) ป้องกันโรคต่อมลูกหมากโต ต่อมลูกหมากอักเสบ
4.) ควบคุมความดันโลหิต
5.) ควบคุมการแลกเปลี่ยนของออกซิเจนในเซลล์
6.) ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ต่างๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น